สาเหตุการหย่าร้าง
ข้อมูลเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2556
เกินไป" เหล่านี้เป็นเพียงบางสาเหตุที่ทำให้คู่รักหย่าร้างกัน
การคบชู้เป็นเหตุผลทั่วไปที่ทำให้ชีวิตคู่พังทลายโดยที่ความปรารถนาทางเพศอาจเป็นสาเหตุให้เกิดการนอกใจ ซึ่งนี่รวมถึงความไม่เท่าเทียมในเรื่องของความต้องการทางเพศ ความไม่พอใจหรือการโครธเคืองคู่รักของคุณ และความเสื่อมสลายในความสัมพันธ์รักระหว่างสามีกับภรรยา
เงินทองอาจไม่ใช่เหตุผลที่แท้จริงของความสุขของคุณ ยิ่งไปกว่านั้นมันอาจเป็นแหล่งที่ให้เกิดความทุกข์ร้อนกับคุณได้
การสื่อสารเป็นกุญแจสำคัญสำหรับความสัมพันธ์รักที่ประสบความสำเร็จ และยังใช้ได้สำหรับคู่รักที่แต่งงานกันแล้ว การขาดการสื่อสารที่เหมาะสมสามารถนำไปสู่ความเสื่อมของความสัมพันธ์รักระหว่างคุณทั้งสองและเป็นสาเหตุให้เกิดความเข้าใจผิดได้ คู่รักอาจเริ่มตีตัวออกห่างจากกันและอาจมีการคิดเรื่องของการหย่าร้าง
ความแตกต่างที่ทำให้ไม่สามารถเข้ากันไม่ได้นั้นมักถูกใช้เป็นข้ออ้างสำหรับการหย่าร้าง
โดยเฉพาะคู่รักที่แต่งงานกันเร็วจนเกินไป
การที่คู่สามีหรือภรรยามีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น เป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความรำคาญใจกับคู่รักที่อยู่กันมาเป็นเวลา 3 ปีมากที่สุด ดังนั้น หากคุณละเลยการดูแลรูปร่างของคุณในวันนี้ มันถึงเวลาแล้วที่คุณควรไปออกกำลังกาย มันจะดีกว่าหากคุณทั้งสองได้ออกกำลังกายร่วมกันเนื่องจากมันเป็นเวลาอันมีค่าในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีที่ต่อกัน
เชื่อว่าทุกๆ คู่รักนั้น กว่าที่จะผ่านมาถึงวันวิวาห์ได้ละก็ คงต้องผ่านอะไรต่อมิอะไรมามากมาย การประคับประคองชีวิตรักให้ยั่งยืนหลังแต่งงาน ก็เป็นเรื่องที่น่าคิด หลายๆ ครอบครัวไม่ได้มีแต่ สามี ภรรายากันเหมือนเมื่อก่อน แต่ มีเจ้าตัวน้อยเป็นโซ่ทองคล้องใจเพิ่มขึ้นมาด้วย
แต่ "ชีวิตไม่ได้เป็นดั่งบทละคร" เรื่องราวที่ถูกถ่ายทอดออกมาบนหน้าจอ อาจจะมีเค้าความจริงเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจากสถิติการหย่าร้างของคู่สมรสเพิ่มจำนวนขึ้นเกือบทุกปี หากพิจารณากันแค่ผิวเผินอาจรู้สึกว่า การเพิ่มจำนวนของการหย่าร้างไม่เห็นจะน่าตกใจสักเท่าไร แต่หากลองคิดในทางกลับกันว่า เพราะอะไรคู่รักเหล่านี้ถึงต้องจูงมือกันไปเซ็นใบหย่า ซึ่งบางรายอาจมีโซ่ทองคล้องใจกันไม่รู้กี่เส้นด้วยซ้ำ
สาเหตุที่ 1 เกิดจากความสัมพันธ์ระหว่างสมาชิกในครอบครัว
ตั้งแต่ความสัมพันธ์ของสามีภรรยา จนถึงความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับพ่อแม่ ความไม่เข้าใจซึ่งกันและกัน ฝ่ายหนึ่งก็อ้างการทำงาน ในขณะที่อีกฝ่ายก็ทำแต่งาน ขาดความใส่ใจ ไม่มีเวลาให้แก่กันและกัน เพราะประเด็นหลักที่ทำให้มีปัญหาของการหย่าร้างเกิดขึ้น เกิดจากพฤติกรรมของคนในครอบครัวที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างเวลาเรานัดเพื่อนเราจะให้ความสำคัญกับเพื่อน
แต่กับภรรยาหรือลูกเรามักจะไม่ค่อยให้ความสำคัญ สิ่งแรกที่เราควรปรับเปลี่ยนคือพฤติกรรมตัวเราเองเพื่อให้เกิดความเข้าใจกันไม่ว่าจะทำอะไรให้ยึดหลัก แฟมิลี่ เฟิร์ส คือให้ความสำคัญกับครอบครัวเป็นอันดับแรก ครอบครัวมีเวลาให้แก่กัน เมื่อโลกแห่งโลกาภิวัตน์เข้ามาในสังคม ทำให้มนุษย์มีเวลาให้กันน้อยลง ครอบครัวไม่มีเวลามาเจอหน้ากัน ถ้าเรามีเวลาให้ครอบครัว กิจกรรมภายในครอบครัวก็จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรดน้ำต้นไม้ พากันไปกินข้าว ไปเที่ยวด้วยกัน สัมพันธภาพภายในครอบครัวก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเรามีเวลาให้แก่กัน เวลาที่เราจะเรียนรู้ซึ่งกันและกันก็เกิดขึ้น แล้วกิจกรรมที่เราทำด้วยกัน สามารถที่จะสอนลูกๆ ไปในตัวด้วย แล้วสิ่งที่พ่อแม่ทำให้ลูกเห็น ลูกๆ ก็จะเรียนรู้ถึงสิ่งเหล่านั้นและซึมซับไปเองโดยอัตโนมัติ
สาเหตุที่ 2 เพราะว่าคุณหรือเขาต่างคาดหวังให้เขาเป็น
ก่อนที่จะแต่งงานกัน (ช่วงที่รักกันใหม่ๆ) คุณและเขาก็อาจจะคาดหวังว่า พอได้แต่งงานกันไป เขา (หรือเธอ) คงจะเป็นแบบนั้น แบบนี้ เช่น เธออาจจะเป็นแม่บ้านที่ดี เป็นแม่ที่ดี หรืออาจจะคาดหวังว่า เขาคงจะเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ดี มีความรับผิดชอบ ช่วยเราดูแลครอบครัว และช่วยเราดูแลบ้าน หากสิ่งที่คุณๆ ได้คาดหวังไว้ แต่คุณไม่เคยบอกคู่ของคุณให้รู้มาก่อนเลยละก็ เมื่อคุณได้มาอยู่ร่วมกันแล้วละก็ คุณอาจจะเพิ่งจะรู้ความจริงก็ได้ว่า เขาเองไม่ได้เป็นไปอย่างที่คุณคาดหวัง หรืออยากให้เขาเป็น ดังนั้นทางแก้ก็คือ คุณและเขาควรที่จะหันหน้าพูดคุยกันก่อนเลยว่า คุณต้องการอะไร และเขาคาดหวังอะไรจากคุณ เพราะหากแต่งไปแล้วคุณหรือเขาเพิ่งจะมารู้ความจริงละก็ หากเขารับได้ก็โชคดีไป แต่หากรับไม่ได้ จากรักวันหวานก็กลายเป็นรักช้ำในวันนี้ก็ได้
สาเหตุที่ 3 สามีภรรยาขาดความอดทนซึ่งกันและกัน
สามีและภรรยาขาดความอดทน ไม่มีการเสียสละและไม่รู้จักการให้อภัยกัน ที่เป็นเช่นนี้เพราะ การที่มีคนมาอยู่ร่วมกันมากกว่าหนึ่งคนขึ้นไป ย่อมต้องมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นบ้างเป็นธรรมดา แต่ถ้าทั้งสองคนไม่ได้มีการใคร่ครวญถึงเหตุผลต่าง ๆ เป็นอย่างดี และร่วมช่วยกันแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ให้ลุล่วงลงได้ด้วยดี
สาเหตุที่ 4 ค่านิยมพื้นฐานที่แตกต่างกันเกินไป
ค่านิยมพื้นฐาน หมายถึง ความเชื่อ ความชอบ และความเห็นว่าดีและไม่ดี ในเรื่องต่างๆ ตั้งแต่พื้นฐานของชีวิต การกิน นอน ศาสนา ความเชื่อ ความสำเร็จ ค่านิยมส่วนตัว ฯลฯ เช่น
หากคุณผู้หญิงเป็นคนที่มีมุมมอง แนวคิดที่อยากจะทำงาน อยากใช้ความสามารถของตนเองในการทำงานหรือทำธุรกิจ หากคุณสามีอยากที่จะให้คุณเป็นแม่บ้านที่ดี และเป็นคุณแม่ที่ดีของลูกก็พอละก็ คุณผู้หญิงก็อาจจะทนไม่ได้ที่สามีอยากให้ทนนั่งอยู่บ้าน
หรือหากว่า คุณเป็นคนที่ชอบช่วยเหลือคนอื่น มีน้ำใจ แต่สามีหรือคู่ของคุณจะไม่ทำอะไร หากไม่มีผลประโยชน์ร่วม คุณก็อาจจะทนกันไม่ได้
แนวทางการแก้ไขก็คือ คุณควรที่จะนั่งถามตัวเองว่า คุณชอบอะไร คิดเห็นเป็นอย่างไร และลองเปรียบเทียบกับเขาดูว่า ระหว่างที่คุณคบกับเขา (ยังไม่ได้แต่งงาน) นิสัยของเขาเป็นอย่างไร แตกต่างมากน้อยแค่ไหน หากแตกต่างกันมากคุณก็ควรจะคุยกับเขาก่อนแต่เนินๆ ดีกว่าที่จะมารู้ภายหลังหลังแต่งงานนะค่ะ
เชื่อหรือไม่ว่า คำพูดของคุณนั้นทรงพลังมาก คำพูดของคุณสามารถทำให้คู่ของคุณ รักหรือเกลียดได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายควรจะพูดจาภาษาดอกไม้กัน เพราะการพูดคุยกันมากขึ้น จะทำให้ต่างฝ่ายต่างรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น และช่วยกันหาทางแก้ไข
สาเหตุที่ 6 เกิดจากเกิดสภาพความเบื่อหน่ายเกิดขึ้นเสมอๆ
โดยเฉพาะความเบื่อหน่ายที่เกิดจากสามีเบื่อหน่ายภรรยา หรือภรรยาเบื่อสามี จากความไม่พอใจในสิ่งเล็กๆ น้อย ที่สะสมมาเป็นเวลานาน จนเมื่อถึงวันหนึ่งมันก็ระเบิดออกมา กลายเป็นเรื่องราวที่เกินการอดทนของทั้ง2 ฝ่ายอีกต่อไป นักจิตวิทยาเชื่อว่า การสื่อสารด้วยคำพูดนั้น สามารถช่วยลดปัญหาเหล่านี้ได้ แต่ก็ต้องใช้คำพูดที่ดีด้วย เพราะคำพูดที่ไม่ดีก็อาจจะทำให้ยิ่งเพิ่มความไม่พอใจเข้าไปอีก เช่น หากคุณไม่ชอบที่เขามาสายในวันที่เขานัดกับคุณ และไม่ได้โทรมาบอก ปล่อยให้คุณนั่งรอ แทนที่คุณจะต่อว่าเขาเพราะโกรธที่รอนาน แต่คุณควรที่จะพูดแสดงความรู้สึกถึงความถูกต้อง เช่น หากเขาจะมาสายก็ควรจะโทรมาบอก แต่คนส่วนมากมักจะต่อว่า หรือไม่ก็นิ่งเฉย หากคุณต่อว่า เขาก็จะเถียงหรือไม่ก็เงียบ ซึ่งมันก็ไม่ดีทั้ง 2 ฝ่าย แต่การบอกเขา ย่อมทำให้เขารู้ว่าอะไรที่ควรทำ และอะไรที่เขาไม่ควรทำ อย่าคาดหวังว่าเขาจะรู้ว่าคุณต้องการอะไร เพราะผู้ชายไม่มีวันเข้าใจคุณได้ดีเท่าคุณเอง การที่คุณเอ่ยปากบอกเขา ก็อาจจะต้องทำใจด้วย คุณอาจจะเห็นเขาโกรธ และอาจจะทำให้คุณไม่กล้าที่จะบอกเขาอีกในครั้งต่อไป แต่ถ้ายิ่งไม่พูด คุณเองนั้นเหละที่จะหงุดหงิด และเมื่อถึงวันที่คุณทนไม่ไหว ต่อให้คุณรักเขาแทบตาย ก็อาจจะต้องเลิกรากันไปเช่นกัน
แนวทางการแก้ไข คือ คุณและเขาควรที่จะพูดคุยกันในเรื่องของความรู้สึก ว่าเรายังจะต้องปรับอะไรให้เข้าหากัน สื่อสารด้วยคำพูดอย่างจริงใจ แม้ว่าจะต้องทำให้อีกฝ่ายเจ็บบ้าง ก็ควรทำ เพราะมันจะทำให้ทั้งคู่เรียนรู้และปรับตัวเข้าหากันได้ สำคัญก็คือ อย่าใช้คำพูดที่มาจากอารมณ์โกรธ แต่ให้ใช้คำพูดที่มาจากหลักเหตุและผล
สาเหตุที่ 7 คุณกำลังหวังว่าเขาจะเหมือนเดิมตลอดไปหรือเปล่า?
คู่รักหลายๆ คู่ ต่างก็อยากให้เขารักเราเหมือนเดิม และมักจะบ่นอยู่เสมอว่า เขาเปลี่ยนไปหลังแต่งงานแล้ว แต่รู้ไหมว่าคนที่พูดแบบนี้คือคนที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่พอ!!!
เพราะชีวิตของทุกๆ คนต้องเปลี่ยนแปลง ความคิด มุมมอง การกระทำก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน แต่ชีวิตแต่งงานที่ดีก็คือ การที่สามีภรรยาค่อยๆ เปลี่ยนไปในทิศทางที่เติบโตไปพร้อมๆ กัน การที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ไม่ยอมเปลี่ยน ก็จะทำให้เกิดความขัดแย้งได้
หนทางการแก้ไข คุณต้องเปิดใจให้กว้าง ยอมรับการเปลี่ยนแปลง และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของมันที่ต้องเกิดขึ้นแน่ๆ ทั้งจากของตัวคุณเองและของเขาเอง
สาเหตุที่ 8 ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งติดอบายมุข
เสพเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ ติดการพนัน เที่ยวสถานเริงรมย์ มากจนเกินไป จนอีกฝ่ายยอมรับไม่ได้ ขาดความรับผิดชอบต่อครอบครัว เอาเงินไปใช้จ่ายจนบางครั้งติดหนี้ บางครั้งขาดสติ แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว ทะเลาะกันในบ้าน ทำให้สภาพครอบครัวแตกร้าว
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณวราพร แคล้วศึก โทร 085-9083178